10 อันดับ เครื่องชงกาแฟ Nespresso รุ่นไหนดี ปี 2023
20
สินค้าที่วิเคราะห์
55h
ใช้เวลา
64
ผู้เชี่ยวชาญที่สัมภาษณ์
102
ความคิดเห็นของผู้ใช้
เครื่องชงกาแฟ เป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่เราสามารถพบเห็นได้ง่ายดายตามสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภายในบ้าน, ห้องคอนโด และหอพักสำหรับการพักอาศัยทั่วไป หรือ แม้แต่อาคารสำนักงานของบริษัทต่าง ๆ เนื่องจากการดื่มกาแฟ ในช่วงเวลานี้ นับว่าเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยม เป็นอย่างมาก ทั้งในช่วงเวลาของการทำงาน, หลังการตื่นนอน , ก่อนเดินทางออกไปทำงาน ไปจนถึงช่วงเวลาต่าง ๆ ในระหว่างวัน เพราะฉะนั้น เราจึงสามารถพบเห็น เครื่องชงกาแฟ จากแบรนด์ต่าง ๆ ออกวางจำหน่ายมาได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะมีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของประเภทสินค้า และ ระดับราคาที่ออกวางจำหน่าย มาจากแต่ละแบรนด์ เนื่องจากเป็นทางเลือกจะทำให้คุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า เมื่อเทียบกันกับการ ซื้อกาแฟ จากร้านต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันนั่นเอง
หากกล่าวถึงตัวเลือกของ เครื่องชงกาแฟ ที่มีความน่าสนใจจากแบรนด์นี้ ทั้งในด้านของความสะดวกสบายในการใช้งาน และความคุ้ค่าของระดับราคาที่วางจำหน่าย แบรนด์สินค้าที่ทุกคนมักจะรู้จักและนึกถึงได้เป็นลำดับแรก ๆ ก็คือ เครื่องชงกาแฟ Nespresso ที่มีสินค้า ระดับราคา และ คุณภาพต่าง ๆ ให้เราเลือกซื้อตามความเหมาะสมได้อย่างยืดหยุ่น และ สำหรับตัวเลือกของสินค้า ที่มีความน่าสนใจจากแบรนด์นี้ ทางเราก็ได้ทำการคัดสรรมาให้คุณ ทั้งหมด 10 รุ่น เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกซื้อได้อย่างรวดเร็วที่สุด พร้อมกันกับการแนะนำรายละเอียดต่าง ๆ ที่มีผลต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน และการใช้งานต่อเนื่องมาให้ในช่วงต่อ ๆ ไปเรียบร้อยแล้ว
1. เครื่องชงกาแฟ Nespresso Creatista Pro
เครื่องชงกาแฟ Nespresso รุ่นระดับสูง ที่สามารถรองรับการชงกาแฟประเภทต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย
2. เครื่องชงกาแฟ Nespresso Gran Lattissima
เครื่องชงกาแฟ จาก แบรนด์ Nespresso ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานในทุกพื้นที่ได้อย่างลงตัว
3. Nespresso ATELIER
อุปกรณ์ชงกาแฟรุ่นมาตรฐานจากแบรนด์ Nespresso ที่สามารถใช้งานได้อย่างมีคุณภาพ และจัดวางได้อย่างไม่เปลืองพื้นที่มากจนเกินไป
10 อันดับ เครื่องชงกาแฟ Nespresso รุ่นไหนดี ปี 2023
- เครื่องชงกาแฟ Nespresso Creatista Pro
- เครื่องชงกาแฟ Nespresso Gran Lattissima
- Nespresso ATELIER
- Nespresso New Lattissima One
- Nespresso Pixie Bundle
- Nespresso Essenza Mini Bundle D Range
- Nespresso Inissia
- Nespresso Essenza Mini C Range
- Nespresso GenioSbasic
- Nespresso MINIME WHITE
1. เครื่องชงกาแฟ Nespresso Creatista Pro
เครื่องชงกาแฟ Nespresso รุ่นระดับสูง ที่สามารถรองรับ การชงกาแฟ ประเภทต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย
- ขนาดสินค้า : –
- น้ำหนัก : –
- แรงดัน : 19 บาร์
- ขนาดความจุของแทงค์เก็บน้ำ : 2 ลิตร
- กำลังไฟฟ้า : –
รุ่นแรกเป็น เครื่องชงกาแฟ รุ่นระดับสูงจากแบรนด์ Nespresso ที่ถูกออกแบบมาด้วยรายละเอียดการใช้งานส่วนต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถชงกาแฟได้หลากหลายประเภท เช่น Espresso, Americano, Cappuccino และ Latte เป็นต้น แต่ก็ยังมีกาแฟ ประเภทอื่น อีกเป็นจำนวนมาก ที่คุณสามารถทำได้ด้วยการใช้งานสินค้าตัวนี้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ด้วยการถูกออกแบบมา ด้วยการใช้งานวัสดุ ในการผลิตที่มีคุณภาพ และความแข็งแรงทนทาน ในส่วนต่าง ๆ ระดับสูง ก็ทำให้ตัวเครื่องสามารถรองรับการใช้งาน ต่อเนื่องยาวนานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มความคุ้มค่า ให้กับตัวสินค้า เมื่อเทียบกันกับระดับราคา ที่วางจำหน่ายด้วยในเวลาเดียวกัน
2. เครื่องชงกาแฟ Nespresso Gran Lattissima
เครื่องชงกาแฟ จากแบรนด์ Nespresso ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานในทุกพื้นที่ได้อย่างลงตัว
- ขนาดสินค้า : 203 x 367 x 276 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 5.2 กิโลกรัม
- แรงดัน : 19 บาร์
- ขนาดความจุของแทงค์เก็บน้ำ : 1.3 ลิตร
- กำลังไฟฟ้า : 1,400 วัตต์
Nespresso Gran Lattissima จัดเป็นรุ่นที่ ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานในทุกพื้นที่ได้อย่างลงตัว จากรายละเอียดส่วนต่าง ๆ ที่ได้ถูกติดตั้งมาให้ภายในของตัวสินค้า ไม่ว่าจะเป็นในด้านของแรงดันสินค้า ที่ถูกติดตั้งมาให้ในระดับ 19 บาร์, ขนาดความจุของแทงค์น้ำในระดับ 1.3 ลิตร หรือแม้แต่การทำงานด้วย กำลังไฟฟ้า ในระดับ 1,400 วัตต์ ซึ่งจะทำให้ตัวอุปกรณ์ สามารถ ชงกาแฟ ประเภทต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย และ ยืดหยุ่น ด้วยการทำงานของโปรแกรมอัตโนมัติ ที่ถูกติดตั้งมาให้ ทั้งหมด 9 รูปแบบ โดยที่ในส่วนของ การทำกาแฟนั้น ก็ยังจะสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ด้วยระยะเวลาในการชงเพียง 25 วินาที เท่านั้น
3. Nespresso ATELIER
เครื่องชงกาแฟ รุ่นมาตรฐาน จากแบรนด์ Nespresso ที่สามารถใช้งานได้อย่างมีคุณภาพ และจัดวางได้อย่างไม่เปลืองพื้นที่มากจนเกินไป
- ขนาดสินค้า : 119 x 434 x 279 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 3.92 กิโลกรัม
- แรงดัน : 19 บาร์
- ขนาดความจุของแทงค์เก็บน้ำ : 1 ลิตร
- กำลังไฟฟ้า : –
รุ่นนี้เป็น เครื่องชงกาแฟ Nespresso ที่จะทำให้คุณสามารถชงกาแฟได้ ด้วยระยะเวลาในการทำความร้อนเพียง 35 วินาที ส่งผลให้คุณสามารถดื่มกาแฟในประเภทที่ชื่นชอบได้อย่างรวดเร็ว ในทุกสถานการณ์และทุกช่วงเวลาของชีวิตประจำวัน โดยรุ่นนี้ จะเป็นสินค้าที่ถูกผลิตขึ้น จากประเทศฝรั่งเศส เป็นผลให้มีคุณภาพโดยรวมจัดอยู่ในระดับสูง และ สามารถรองรับการใช้งานในระยะยาวได้อย่างดีมากยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นด้วยการเป็นเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล ที่สามารถรองรับการจัดเก็บ แคปซูลชงกาแฟ ภายในได้มากถึง 13 แคปซูล ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คุณสามารถใช้งานตัวเครื่อง ในพื้นที่ที่มีผู้คนจำนวนมาได้เป็นอย่างดีด้วย
4. Nespresso New Lattissima One
เครื่องชงกาแฟ สำหรับการใช้งานระดับทั่วไป ที่ถูกผลิตขึ้นมาจากมาตรฐาน การผลิตของประเทศอิตาลี
- ขนาดสินค้า : 256 x 154 x 324 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : –
- แรงดัน : 19 บาร์
- ขนาดความจุของแทงค์เก็บน้ำ : 1 ลิตร
- กำลังไฟฟ้า : –
Nespresso New Lattissima One จัดเป็นรุ่นที่ ถูกออกแบบมา โดยเน้นความโดดเด่นสำคัญ ไปในเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ที่ดูมีความสวยงามทันสมัย และแปลกใหม่ ส่งผลให้สามารถจัดวางในทุกพื้นที่ การจัดวางได้อย่างเหมาะสม และ ช่วยเพิ่มความสวยงามหรูหราให้กับพื้นที่ได้ มากยิ่งขึ้น สำหรับความสามารถในการ ชงกาแฟ ของตัวเครื่องนั้น จะประกอบไปด้วย การทำความร้อน ที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียง 25 วินาที, การปิดการทำงานแบบอัตโนมัติ ที่จะทำงานทันทีหลังไม่ได้ใช้งาน ตัวเครื่อง 9 วินาที เพื่อให้สามารถประหยัดพลังงานได้ มากยิ่งขึ้น หรือ แม้แต่การติดตั้งระบบ การทำความสะอาดแบบอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยให้เพิ่มสะดวกสบาย ให้กับการใช้งานได้มากยิ่งขึ้น
5. Nespresso Pixie Bundle
เครื่องชงกาแฟ Nespresso รูปลักษณ์การออกแบบสุดทันสมัย ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้านเป็นอย่างมาก
- ขนาดสินค้า : 111 x 235 x 326 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 2.8 กิโลกรัม
- แรงดัน : –
- ขนาดความจุของแทงค์เก็บน้ำ : –
- กำลังไฟฟ้า : –
สำหรับรุ่นนี้ จะเป็นเครื่องชงกาแฟ ที่สามารถรองรับการทำเครื่องดื่มได้เป็นจำนวนมาก จากส่วนประกอบที่ถูกติดตั้งมาให้ของตัวสินค้า ไม่ว่าจะเป็น กาแฟ ประเภท Espresso ที่สามารถทำได้สูงสุดถึง 17 แก้ว หรือ แม้แต่การแฟแบบ Lungo ที่สามารถรองรับการชงได้ทั้งหมด 6 แก้ว เป็นต้น โดยในด้านของการจัดวางนั้นรุ่นนี้ จะสามารถทำได้อย่างเหมาะสมในทุกพื้นที่ จากรูปลักษณ์ โดยรวมที่มีความทันสมัย และ ขนาดของสินค้า ที่ไม่มากจนเกินไป ยิ่งไปกว่านั้น ยังเพิ่มความคุ้มค่าให้กับการใช้งานต่อเนื่องได้ มากยิ่งขึ้น ด้วยการรับประกันสินค้า ที่ถูกแถมมาให้อย่างยาวนานและ ต่อเนื่องตลอด 2 ปี ด้วยในเวลาเดียวกัน
6. Nespresso Essenza Mini Bundle D Range
เครื่องชงกาแฟรุ่นขนาดเล็กกะทัดรัด ที่มาพร้อมรูปลักษณ์การออกแบบดีไซน์สุดเรียบง่าย
- ขนาดสินค้า : 110 x 205 x 325 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 2.3 กิโลกรัม
- แรงดัน : 19 บาร์
- ขนาดความจุของแทงค์เก็บน้ำ : 0.6 ลิตร
- กำลังไฟฟ้า : –
Nespresso Essenza Mini Bundle D Range เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ถูกออกแบบมา ให้สามารถจัดวางได้อย่างเหมาะสมในทุกพื้นที่ของการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน ขนาดมาตรฐาน หรือแม้แต่พื้นที่พักอาศัยขนาดต่าง ๆ โดยในด้านของการออกแบบสินค้านั้น แม้ว่าจะดูมีความเรียบง่าย และ ไม่แปลกตามากนัก แต่ยังมีการเลือกใช้งานสีในการผลิต ที่ให้ความรู้สึกสดใส แต่ยังเข้ากันได้กับทุกสไตล์ การตกแต่งของบ้าน ที่สำคัญตัวอุปกรณ์ ก็ยังสามารถรองรับ การชงกาแฟ แบบมาตรฐานต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วนอีกด้วย
7. Nespresso Inissia
เครื่องชงกาแฟจากประเทศยูเครนที่มีความคุ้มค่าเป็นอย่างมาก ทั้งในด้านของฟังก์ชันการใช้งานและระดับราคาที่วางจำหน่าย
- ขนาดสินค้า : 120 x 321 x 230 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : –
- แรงดัน : 19 บาร์
- ขนาดความจุของแทงค์เก็บน้ำ : 0.7 ลิตร
- กำลังไฟฟ้า : –
หากคุณกำลังมองหาสินค้า ที่มีรูปลักษณ์ดีไซน์แปลกตา และมีรายละเอียดการใช้งารที่ตอบโจทย์ขั้นพื้นฐานได้อย่างเหมาะสม รุ่นนี้จะถือเป็นตัวเลือกที่มีความน่าสนใจสำหรับคุณอยู่ไม่น้อย ทั้งในด้านของ การชงกาแฟแบบแคปซูล ไปจนถึงการจัดวางที่ สามารถทำได้อย่างประหยัดพื้นที่ ด้วยขนาดโดยรวมของสินค้า ที่ค่อนข้างมีความกะทัดรัดมากเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งฟังก์ชันการปิดการทำงาน ของตัวเครื่องแบบอัตโนมัติ ที่จะทำให้คุณสามารถใช้งานต่อเนื่องได้อย่างประหยัดพลังงาน มากยิ่งขึ้นด้วย
8. Nespresso Essenza Mini C Range
เครื่องชงกาแฟ Nespresso ดีไซน์การออกแบบสุดสวยงามทนทาน ที่สามารถรองรับการใช้งานต่อเนื่องระยะยาวได้เป็นอย่างดี
- ขนาดสินค้า : 110 x 205 x 325 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 2.3 กิโลกรัม
- แรงดัน : 19 บาร์
- ขนาดความจุของแทงค์เก็บน้ำ : 0.6 ลิตร
- กำลังไฟฟ้า : –
Nespresso Essenza Mini C Range จัดเป็นตัวเลือกของ เครื่องชงกาแฟ Nespresso ที่มีความโดดเด่นทั้งในด้านของรูปลักษณ์ดีไซน์ การออกแบบ และ รายละเอียดการใช้งานส่วนต่าง ๆ ที่ถูกติดตั้ง มาให้ในระดับมาตรฐานทั่วไป โดยตัวสินค้า จะถูกออกแบบมาให้สามารถรองรับการชงกาแฟ ในชีวิตประจำวันได้ ด้วยจำนวนแก้วโดยรวมเป็นจำนวนมาก ถึงแม้ จะมีขนาดความจุของแทงค์เก็บน้ำ ที่อยู่ในระดับ สูงสุดเพียง 600 มิลลิลิตร และใช้แรงดันน้ำในระดับ 19 บาร์ ที่สำคัญ ด้วยการถูกออกแบบมาให้เป็น เครื่องชงกาแฟ แบบแคปซูล จึงทำให้ในด้านของการใช้งาน ก็สามารถทำได้อย่างสะดวกสบายด้วยในเวลาเดียวกัน
9. Nespresso GenioSbasic
เครื่องชงกาแฟ รุ่นขนาดเล็กจาก แบรนด์ Nespresso ที่มาพร้อมฟังก์ชันการทำงานโดยรวมระดับมาตรฐาน
- ขนาดสินค้า : 110 x 270 x 290 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 2 กิโลกรัม
- แรงดัน : 15 บาร์
- ขนาดความจุของแทงค์เก็บน้ำ : 0.8 ลิตร
- กำลังไฟฟ้า : –
เครื่องชงกาแฟ Nespresso รุ่นนี้ เป็นหนึ่งในตัวเลือก ที่มีรายละเอียดการใช้งานส่วนต่าง ๆ อยู่ในระดับมาตรฐาน และสามารถรองรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน สำหรับ ที่พักอาศัยทุกรูปแบบและอาคารสำนักงานได้ดี เป็นอย่างมาก จากการใช้งานแรงดันน้ำระดับ 15 บาร์ , การปรับระดับอุณหภูมิ 4 ระดับ ที่ทำให้สามารถรองรับ การทำเครื่องดื่มได้ อย่างหลากหลายม การมาพร้อมโหมด ประหยัดพลังงาน ที่จะช่วยเพิ่มความคุ้มค่าให้กับการใช้งานต่อเนื่องได้ มากยิ่งขึ้น, ความสามารถในการรองรับ การชงกาแฟ ที่สามารถทำได้ในแก้วที่มีขนาดใหญู่ สูงสุดถึงไซซ์ XL ไปจนถึงการออกแบบ ระบบการทำงานพิเศษ ที่จะทำให้คุณสามารถ ชงกาแฟ Espresso ได้ ด้วยรสชาติที่มีความเข้มข้น มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงยังสามารถจัดวางได้ อย่างพื้นที่ จากขนาดโดยรวมของสินค้า ที่มีความเล็กกะทัดรัดมาก เป็นพิเศษด้วยเช่นกัน
10. Nespresso MINIME WHITE
เครื่องชงกาแฟ แบบแคปซูล จาก แบรนด์ Nespresso ที่สามารถชงกาแฟ ในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
- ขนาดสินค้า : 160 x 310 x 240 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 2.5 กิโลกรัม
- แรงดัน : 15 บาร์
- ขนาดความจุของแทงค์เก็บน้ำ : 0.8 ลิตร
- กำลังไฟฟ้า : –
สุดท้ายเป็นอุปกรณ์ สำหรับการชงกาแฟ ซึ่งถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชันการใช้งาน ที่ใกล้เคียงกันกับสินค้าในรุ่นที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของฟังก์ชันการใช้งานส่วนต่าง ๆ ที่มีผลต่อการชงกาแฟ ในทุกสถานการณ์ หรือ แม้แต่รูปลักษณ์ดีไซน์ การออกแบบ ที่มีความเล็กกะทัดรัด และสามารถจัดวางได้อย่างเหมาะสม ในทุกพื้นที่ ของการพักอาศัยและการทำงานต่าง ๆ ส่งผลให้เมื่อเทียบกันกับ ระดับราคา ที่ถูกออกวางจำหน่ายมาจากทางแบรนด์สินค้า รุ่นนี้ จึงถือว่ามีความน่าสนใจในการเลือกซื้อ และใช้งานเป็นอย่างมาก หากเทียบสินค้าที่ถูกผลิต และ วางจำหน่ายมาในช่วงราคาที่ย่อมเยา และ เน้นความคุ้มค่าในด้านต่าง ๆ ที่มากที่สุด ดังนั้น หากคุณกำลังมองหา เครื่องชงกาแฟ Nespresso ที่เป็นสินค้าแบบชงด้วย แคปซูล ซักหนึ่งรุ่น รุ่นนี้จะเป็นอีกหนึ่งสินค้า ที่คุณไม่ควรมองข้ามไปในการพิจารณา เลยแม้แต่น้อย
จุดเด่นของเครื่องชงกาแฟ Nespresso
เครื่องชงกาแฟ Nespresso จะเป็นสินค้าที่ถูกออกแบบมา โดยเน้นความโดดเด่นไปในเรื่องของฟังก์ชันการใช้งาน ที่มีความคุ้มค่าเมื่อเทียบกันกับนะดับราคาที่ออกวางจำหน่าย ทั้งในส่วนของ การชงกาแฟ และ การใช้งานในด้านต่าง ๆ ส่งผลให้แทบทุกรุ่นล้วนแล้วแต่เป็นสินค้า ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก
สำหรับคนที่กำลังมองหา เครื่องชงกาแฟมาไว้ สำหรับการใช้งานอย่างต่อเนื่องภายในสถานที่ต่าง ๆ ทั้งพื้นที่ สำหรับการทำงานหรือแม้แต่พื้นที่เพื่อการพักอาศัย นอกจากนี้ แทบทุกรุ่นก็ยังมักจะมีการผลิตขึ้น ด้วยการใช้งานวัสดุที่มีคุณภาพสูง ซึ่งจะทำให้ตัวสินค้ามีความสวยงามและ ดูหรูหรามากยิ่งขึ้น รวมไปถึงด้วยการถูกออกแบบมา ให้มีรูปลักษณ์ดีไซน์การออกแบบ ที่มีความทันสมัยมากกว่าแบรนด์อื่น ๆ ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สินค้าจากแบรนด์นี้ มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วยในเวลาเดียวกัน
วิธีการเลือกซื้อ เครื่องชงกาแฟ NESPRESSO
1. เลือกจากประเภทของกาแฟที่สามารถรองรับการชงได้จากตัวเครื่อง
ในการเลือก ซื้อเครื่องชงกาแฟ Nespresso สิ่งหนึ่งที่คุณจะต้องตรวจสอบเป็นลำดับแรก ๆ คือ ความหลากหลายของ ประเภทกาแฟ ที่ตัวสินค้าสามารถรองรับการชงได้ เนื่องจากสินค้าแต่ละรุ่นจะถูกออกแบบมา ให้สามารถชงกาแฟประเภทต่าง ๆ ได้แตกต่างกันออกไป ตามระดับราคา ที่ทางแบรนด์ ออกวางจำหน่าย และจากการที่แต่ละคน มีความชื่นชอบใน ประเภทกาแฟ ที่แตกต่างกันออกไป อย่างสิ้นเชิง
จึงทำให้การเลือกซื้อนั้น หากคุณเลือกรุ่น ที่ไม่สามารถ ชงกาแฟ ในประเภทที่ คุณต้องการได้ ก็จะทำให้คุณอาจไม่มีความพอใจมากเพียง ในการใช้งานตัวเครื่องมากเท่าไหร่นัก ดังนั้น ในการเลือกซื้อ คุณควรตรวจสอบทั้งรายละเอียดส่วนต่าง ๆ ที่ตัวอุปกรณ์ จำเป็นจะต้องใช้ ในการชงกาแฟ ว่ามีส่วนที่สามารถรองรับ ส่วนผสมต่าง ๆ ในการชงกาแฟ ที่คุณชื่นชอบได้หรือไม่ เพราะ กาแฟ แต่ละรูปแบบนั้น จะมีส่วนประกอบ ที่ค่อนข้างแตกต่างกันออกไป อย่างชัดเจน ถึงแม้จะมีพื้นฐานเป็น Espresso
สำหรับการเลือกซื้อ ให้คุ้มค่ามากที่สุด โดยเฉพาะสำหรับการใช้งานในอาคารสำนักงาน หรือพิ้นที่ที่มีผู้คนอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมากนั้น การเลือกซื้อรุ่นที่สามารถรองรับ การชงกาแฟได้ ในประเภทที่มีความหลากหลายมากที่สุด จะทำให้ตัวเครื่องรอบรับการใช้งาน ของผู้คนจำนวนมากได้มากยิ่งขึ้น แม้ว่าจะมีระดับราคาที่อยู่ในระดับสูงมากกว่า แต่ก็จะทำให้รายละเอียดส่วนอื่น ๆ อยู่ในระดับ ที่สูงมากยิ่งขึ้นได้ด้วยในเวลากัน แต่หากคุณต้องการประหยัดงบประมาณในการเลือกซื้อให้ได้มากยิ่งขึ้น ก็อาจเลือกรุ่นที่มี ระดับราคาต่ำลงมาก และสามารถเลือกชงได้แต่กาแฟ แบบมาตรฐานทั่วไป ที่ได้รับความนิยม ในการเลือกดื่มได้ ด้วยเช่นกัน
3. พิจารณาขนาดของตัวเครื่องที่จัดวางได้อย่างประหยัดพื้นที่
เครื่องชงกาแฟ หลาย ๆ รุ่นนั้นเรียกได้ว่าค่อนข้างถูกออกแบบมา ให้มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่มาก เป็นพิเศษ โดยเฉพาะสินค้าที่สามารถชงกาแฟได้ จากส่วนประกอบหลาย ๆ รูปแบบ ส่งผลให้โดยรวมจะใช้พื้นที่ในการจัดวาง ที่อยู่ในระดับสูงมากยิ่งขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน และจากการที่แต่ละพื้นที่ในการใช้งาน มีความเหมาะสมและพื้นที่ในการจัดวางสิ่งต่าง ๆ ที่แตกต่างกันออกไป ทำให้การพิจารณา ถึงรายละเอียดในส่วนนี้ ก็ถือว่าไม่ควรมองข้ามไปเลยแม้แต่น้อย
โดยเฉพาะ การใช้งานในสถานที่ที่มีพื้นที่ ใช้สอยอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ เช่น หอพัก, ห้องคอนโด หรือห้องทำงาน เป็นต้น แต่ในกรณีที่คุณต้องการใช้งานตัวอุปกรณ์ สำหรับการจัดวางในพื้นที่ ที่มีขนาดใหญ่มากกว่า การเลือกรุ่นที่มีขนาดสินค้า อยู่ในระดับสูงมากกว่า เพื่อให้มีฟังก์ชัน การใช้งาน ที่ยืดหยุ่นกว่า ก็อาจไม่ใช่สิ่งที่คุณจะต้องให้ความสำคัญ มากเท่าไหร่นัก ในการพิจารณา และ เลือกซื้อสินค้าซักหนึ่งรุ่น
เนื่องจากรายละเอียดในด้านของขนาดและ น้ำหนัก นั้น จะมีการปรับเปลี่ยนไปตามส่วนประกอบต่าง ๆ ที่จะต้องใช้ในการชงกาแฟของตัวสินค้า ทำให้ในด้านของความเหมาะสมคุณควรพิจารณา ควบคู่ไปกับความหลากหลายในประเภทของกาแฟ ที่ตัวเครื่องสามารถรองรับการชงได้ และฟังก์ชันการใช้งานส่วนต่าง ๆ ของตัวอุปกรณ์ ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนที่มีความสำคัญ ต่อการใช้งานด้วยเช่นกัน เพื่อให้คุณสามารถใช้งานในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้
3. ตรวจสอบขนาดความจุของแทงค์น้ำที่ถูกติดตั้งมาให้กับตัวสินค้า
รายละเอียดในส่วนนี้ จะแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจน ถึงความสะดวกสบายและความง่ายดายในการใช้งานตัวเครื่อง โดยรุ่นทีถูกออกแบบมาให้มีขนาดความจุของแทงค์น้ำมากกว่า แม้ว่าจะมีขนาดและน้ำหนักโดยรวม ที่อยู่ในระดับสูงมากกว่าเมื่อเทียบกันกับรุ่นอื่น ๆ แต่ก็จะทำให้ในหนึ่งรอบของการเติมน้ำเพื่อใช้ในการชงกาแฟ จะสามารถรองรับการชงได้ในจำนวนแก้วของกาแฟ ที่มากกว่า ส่งผลให้เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ การใช้งานในพื้นที่ ที่มีผู้คนอยู่เป็นจำนวนมาก และมีขนาดใหญ่ได้ อย่างมีคุณภาพมากกว่า เพราะจะทำให้คุณไม่จำเป็นจะต้องเติมน้ำบ่อยครั้งมากนัก ในการเปิดทำงานของตัวอุปกรณ์ อย่างต่อเนื่องนั่นเอง
ดังนั้น การพิจารณาถึงรายละเอียดในด้านนี้ คุณจะต้องทำจากเริ่องต่าง ๆ ที่คุณต้องการในสินค้าตัวนั้น ๆ เช่น หากคุณต้องการรุ่นที่สามารถจัดวางได้อย่างประหยัดพื้นที่ หรือสามารถเคลื่อนย้ายการจัดวางได้อย่างสะดวกสบายมากกว่า ก็ควรมองหารุ่นที่ถูกออกแบบมา ให้มีขนาดความจุแทงค์น้ำ อยู่ในระดับมาตรฐาน เนื่องจากจะช่วยให้ตัวสินค้า มีขนาดโดยรวมที่ลดลง และ สามารถจัดวางได้ โดยไม่จำเป็นจะต้องใช้พื้นที่ในการใช้สอยมากนัก แต่หากคุณต้องการใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่ อย่างอาคารสำนักงาน ที่จำเป็นจะต้องรองรับการดื่มกาแฟของผู้คนเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน รุ่นที่มีขนาดความจุ ของแทงค์น้ำค่อนข้างใหญ่ ก็จะเป็นตัวเลือกที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้ดีมากกว่า
บทสรุป
สำหรับ เครื่องชงกาแฟ Nespresso นั้น จะถูกออกแบบมาให้ มีรายละเอียดด้านการใช้งานส่วนต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์การใช้งานของแต่ละ กลุ่มลูกค้าได้ แตกต่างกันออกไปอย่างชัดเจน ส่งผลให้คุณสามารถเลือกซื้อ ตามความชื่นชอบ และความเหมาะสม ในการใช้งานของสถานการณ์ต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น
รวมไปถึงยังมี ระดับราคา ที่สามารถเข้าถึงในกลุ่มคน และ พื้นที่การใช้งานต่าง ๆ ได้หลากหลายและยืดหยุ่นอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นในด้านของงบประมาณในการเลือกซื้อ หรือ แม้แต่พื้นที่ต่าง ๆ ที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานของตัวเครื่อง เพราะฉะนั้น หากคุณได้ลอง พิจารณารายละเอียดต่าง ๆ ที่มีผลต่อการใช้งานของแต่ละรุ่น คุณก็จะสามารถเลือกซื้อได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วอย่างแน่นอน